วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

วิธีทำใบขับขี่สากล 2568 เอกสารที่ต้องเตรียม ขั้นตอน และค่าใช้จ่ายครบจบ

  

การเตรียมเอกสารทำใบขับขี่สากลปี 2568

หากคุณต้องการทำใบขับขี่สากลในปี 2568 (พ.ศ. 2568) เพื่อใช้ขับรถในต่างประเทศ สิ่งที่คุณต้องเตรียมมีดังนี้:


เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ (สำหรับคนไทย)

  • หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริงและสำเนา: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือเดินทางของคุณยังไม่หมดอายุ

  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงและสำเนา: ใช้ในการยืนยันตัวตน

  • ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลฉบับจริงและสำเนา: ใบขับขี่ที่คุณมีอยู่จะต้องเป็นชนิด 5 ปี หรือตลอดชีพเท่านั้น หากเป็นใบขับขี่ชั่วคราว (2 ปี) จะยังไม่สามารถทำใบขับขี่สากลได้

  • รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว: จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดำ และไม่มีภาพสะท้อนจากแว่นตา

  • ค่าธรรมเนียม: 505 บาท


ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • ใบขับขี่สากลมีอายุ 1 ปี: นับจากวันที่ออกให้ และไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องทำใหม่เมื่อหมดอายุ

  • สามารถทำได้ที่: สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ

  • ต้องไปดำเนินการด้วยตัวเอง: ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำแทนได้

  • ใบขับขี่สากลเป็นเหมือนเอกสารคู่กับใบขับขี่ไทย: ในการใช้งานที่ต่างประเทศ คุณยังคงต้องพกใบขับขี่ไทยฉบับจริงคู่กันไปด้วยเสมอ


ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. ยื่นคำขอ: ติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งที่ต้องการทำใบขับขี่สากล

  2. ตรวจสอบเอกสาร: เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารที่คุณเตรียมมา

  3. ชำระค่าธรรมเนียม: ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด

  4. รอรับใบขับขี่สากล: เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับใบขับขี่สากล

ขับรถชนกรวยจราจร แบริเออร์ เสียค่าปรับเท่าไหร่?

 


การขับรถชนกรวยจราจรหรือแบริเออร์นั้น ไม่ได้มีค่าปรับที่ระบุไว้ชัดเจนในกฎหมายจราจรโดยตรงว่าต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเท่าใดครับ อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข้อหาที่เป็นไปได้:

  • ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินผู้อื่น (มาตรา 43 (4) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522): หากการชนเกิดจากการขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียว มีโทษปรับตั้งแต่ 400 - 1,000 บาท

  • ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย (มาตรา 358 ประมวลกฎหมายอาญา): หากกรวยจราจรหรือแบริเออร์เป็นของหน่วยงานราชการหรือเอกชน และได้รับความเสียหายจากการชน ผู้ขับขี่อาจถูกแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

  • ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุ (มาตรา 78 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522): หากผู้ขับขี่ชนแล้วไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ หรือไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สิ่งที่ควรทำหากเกิดเหตุการณ์:

  1. จอดรถในที่ปลอดภัย: หากเป็นไปได้และไม่มีอันตรายต่อการจราจร ควรจอดรถข้างทาง

  2. ตรวจสอบความเสียหาย: ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณและกรวย/แบริเออร์

  3. แจ้งเจ้าหน้าที่: โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทันที เพื่อมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ บันทึกข้อมูล และประเมินความเสียหาย

  4. ให้ข้อมูลตามความเป็นจริง: ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับเจ้าหน้าที่เพื่อประกอบการพิจารณา

สรุป:

แม้จะไม่มีค่าปรับตายตัวสำหรับการชนกรวยจราจรหรือแบริเออร์ แต่การกระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่ข้อหาและความรับผิดชอบทางกฎหมายได้หลายอย่าง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย ดังนั้น ควรขับรถด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเสมอครับ

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

วิธีเช็กใบสั่งจราจรออนไลน์ จ่ายค่าปรับครบจบในที่เดียว

 


ตรวจสอบใบสั่งออนไลน์และชำระค่าปรับได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันการตรวจสอบใบสั่งและการชำระค่าปรับจราจรเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าคุณจะต้องการเช็กว่ามีใบสั่งค้างชำระกี่ใบ หรือต้องการจ่ายค่าปรับทันที ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย

1. ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ PTM E-Ticket

ระบบ PTM E-Ticket เป็นแพลตฟอร์มหลักที่พัฒนาโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับธนาคารกรุงไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนตรวจสอบและชำระค่าปรับได้ทุกที่ทุกเวลา

วิธีเช็ก:

  • เข้าเว็บไซต์ ptm.police.go.th

  • ลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบ: หากยังไม่มีบัญชี ให้ลงทะเบียนโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน หรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่คุณมีอยู่

  • ตรวจสอบใบสั่ง: เลือกเมนู "ตรวจสอบใบสั่ง" หรือ "ค้นหาใบสั่ง"

  • กรอกข้อมูล: ป้อนข้อมูลที่จำเป็น เช่น เลขที่ใบสั่ง (ถ้ามี), เลขทะเบียนรถ, หรือเลขบัตรประชาชน

  • ผลการค้นหา: ระบบจะแสดงรายการใบสั่งค้างชำระทั้งหมด พร้อมรายละเอียด เช่น วันที่กระทำผิด, ข้อหา, สถานที่, และจำนวนเงินค่าปรับ

2. ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

สำหรับผู้ที่ใช้แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ของธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว สามารถตรวจสอบและชำระค่าปรับได้โดยตรงในแอปฯ

วิธีเช็กและชำระ:

  • เปิดแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

  • เลือกเมนู "จ่ายบิล" หรือ "จ่ายค่าปรับ"

  • ค้นหา "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ค่าปรับจราจร"

  • กรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น เลขทะเบียนรถ หรือเลขบัตรประชาชน

  • ระบบจะแสดงใบสั่งที่ค้างชำระ และคุณสามารถเลือกชำระเงินได้ทันที

3. ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet

TrueMoney Wallet ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คุณตรวจสอบและชำระค่าปรับได้สะดวก

วิธีเช็กและชำระ:

  • เปิดแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet

  • เลือกเมนู "บิลและบริการ" หรือ "จ่ายบิล"

  • ค้นหา "ค่าปรับจราจร"

  • กรอกข้อมูลที่จำเป็น ระบบจะแสดงใบสั่งค้างชำระ และคุณสามารถชำระเงินได้

4. ตรวจสอบและชำระที่เคาน์เตอร์บริการ

หากไม่สะดวกใช้ช่องทางออนไลน์ คุณยังสามารถตรวจสอบและชำระค่าปรับได้ที่:

  • ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย

  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ

  • ที่ทำการไปรษณีย์ไทย

  • สถานีตำรวจ ทั่วประเทศ

ข้อควรรู้:

  • ใบสั่งจราจรที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถตรวจสอบและชำระค่าปรับได้ผ่านช่องทางเหล่านี้

  • การชำระค่าปรับออนไลน์ช่วยประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานีตำรวจ

  • หากมีข้อสงสัยหรือไม่พบข้อมูลใบสั่ง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือสายด่วน 1197 (ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร)

การตรวจสอบและชำระค่าปรับออนไลน์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ช่วยให้คุณสามารถจัดการเรื่องค่าปรับได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใบสั่งค้างชำระโดยไม่รู้ตัวอีกต่อไป

วิธีทำใบขับขี่สากล 2568 เอกสารที่ต้องเตรียม ขั้นตอน และค่าใช้จ่ายครบจบ

   การเตรียมเอกสารทำใบขับขี่สากลปี 2568 หากคุณต้องการทำ ใบขับขี่สากลในปี 2568 (พ.ศ. 2568) เพื่อใช้ขับรถในต่างประเทศ สิ่งที่คุณต้องเตรียมมีด...